วันอังคารที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2556

คลินิกปิด 1 วัน ค่ะ




คลินิกเส้นเลือดขอด เส้นฟอกไต
 By คลินิกหมอกิตติพันธุ์ - หมออมราภรณ์



   ทางคลินิกขอเรียนแจ้งให้ทราบว่า  คลินิกปิดทำการ 1 วัน คือวันที่ 23  มกราคม  2556  และจะเปิดให้บริการตามปกติในวันที่ 24 มกราคม  2556  เวลา 17.00 - 20.00 น.  

    สำหรับคนไข้ของ อาจารย์กิตติพันธุ์  อาจารย์ติดราชการ ณ ต่างประเทศ งดออกตรวจนะคะ

วันอาทิตย์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2556

แจ้ง ... อาจารย์ กิตติพันธุ์ งดออกตรวจ ค่ะ





คลินิกเส้นเลือดขอด เส้นฟอกไต 
By: คลินิกหมอกิตติพันธุ์ - หมออมราภรณ์

       ทางคลินิกขอเรียนแจ้งให้ท่านทราบว่า  อาจารย์กิตติพันธุ์  จะงดออกตรวจที่คลินิก ระหว่างวันที่ 23 - 26  มกราคม  2556 ค่ะ

       เนื่องจากติดราชการ ณ ต่างประเทศ  จึงขออภัย มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ  สำหรับคนไข้ที่ประสงค์จะตรวจ อาจารย์ เริ่มออกตรวจอีกครั้งวัน จันทร์  ที่ 28  มกราคม  2556 เวลา 18.00 - 20.00 น.ค่ะ

      

วันอาทิตย์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2556

Clinic...





This Medical Clinics are solely dedicated to the minimally invasive
treatment ofspider veins, varicose veins, and venous leg ulcers

For more information on
www.legveinclinicthailand.com

แนะนำวิธีการรักษาเส้นเลือดขอด แบบใหม่โดยไม่ต้องผ่าตัด



คลินิกเส้นเลือดดำที่ขา เป็นคลินิกที่ให้บริการรักษาโรคเส้นเลือดขอด
 เส้นเลือดฝอย และแผลเรื้อรังที่เกิดจากหลอดเลือดดำเสื่อม
 โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคหลอดเลือดโดยเฉพาะ
 มีความชำนาญและเน้นที่การรักษาโดยไม่ต้องผ่าตัด
 ทำเสร็จแล้วกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องพักฟื้น ทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติ
 ด้วยเทคนิคที่ก้าวหน้า ทันสมัยและ ปลอดภัย
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 
www.legveinclinicthailand.com

วันเสาร์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2556

6 หลักหยุดปัญหา “ฉี่รดที่นอน”





ด้าน ผศ.นพ.ศิริไชย หงส์สงวนศรี หน่วยจิตเวชเด็กและวัยรุ่น ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวว่า เด็กที่มีอาการปัสสาวะรดที่นอนส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ แต่อาจมีความผิดปกติของระบบทางเดินปัสสาวะหรือระบบประสาทที่ควบคุมได้

พ่อแม่ควรทำความเข้าใจว่า ตัวเด็กเองก็ไม่อยากให้ตนเองปัสสาวะรดที่นอนเหมือนกัน แต่เขาไม่สามารถควบคุมได้จริงๆ จึงไม่ได้เป็นความผิดของเด็ก ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการลงโทษโดยไม่เหมาะสม ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากปัญหาด้านจิตใจ แต่เด็กอาจได้รับผลกระทบทางจิตใจจากการปัสสาวะรดที่นอน ได้แก่ ความรู้สึกอับอาย ขาดความมั่นใจในตัวเอง วิตกกังวล และปัญหาด้านสังคม เป็นต้น

6 หลักในการปฏิบัติ สำหรับเด็กที่ปัสสาวะรดที่นอน

1.การจูงใจให้เด็กต้องการควบคุมการปัสสาวะรดที่นอนด้วยตนเอง ด้วยการพูดถึงผลดีที่จะเกิดขึ้นตามมา เช่น พ่อแม่รู้สึกดีใจ เด็กสามารถไปนอนนอกบ้านหรือเข้าค่ายกับเพื่อนได้โดยไม่ต้องกังวลใจ รวมทั้งความรู้สึกมั่นใจในตนเอง เป็นต้น

2.งดอาหารและเครื่องดื่มในช่วงเวลา 1-2 ชั่วโมงก่อนนอน โดยเฉพาะอาหาร และเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบ เช่น น้ำอัดลมบางชนิด และชาเขียว เป็นต้น เนื่องจากสารกาเฟอีนมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ และเครื่องดื่มเหล่านี้มีกาเฟอีนเป็นส่วนประกอบประมาณ 10 ม.ก./100 ม.ล.

3.ให้ปัสสาวะก่อนเข้านอนทุกคืน

4.เน้นให้การฝึกควบคุมการปัสสาวะรดที่นอนเป็นความรับผิดชอบของเด็กเอง ตั้งแต่ให้บันทึกอาการปัสสาวะรดที่นอนด้วยตนเอง ลุกขึ้นมาปัสสาวะเองถ้ารู้สึกปวดปัสสาวะ และให้มีส่วนร่วมในการเปลี่ยนหรือทำความสะอาดเสื้อผ้าและผ้าปูที่นอน

5.งดการปลุกขึ้นมาปัสสาวะตอนกลางคืน เพราะอาจทำให้เด็กหยุดปัสสาวะรดที่นอนได้ช้ากว่าไม่ปลุก และมักทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่และเด็ก

6.ใช้หลักพฤติกรรมบำบัด คือให้แรงเสริมทางบวก เมื่อเด็กสามารถควบคุมการปัสสาวะรดที่นอนได้ โดยให้เด็กติดสติ๊กเกอร์รูปที่ตนเองชอบลงบนปฏิทิน ในวันที่ไม่ปัสสาวะรดที่นอน และพ่อแม่ควรให้รางวัลด้วยการพูดชมเชย ให้ของเล่น หรือให้สิทธิประโยชน์บางอย่าง เป็นต้น

อย่างไรก็ตามนั้น พ่อแม่ต้องช่วยติดตามการเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์ และพิจารณาให้รางวัลที่มีคุณค่ามากขึ้น ถ้าเด็กควบคุมการปัสสาวะรดที่นอนได้มากขึ้นในแต่ละสัปดาห์ที่ผ่านไปด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เทคนิคสร้างสมาธิ-ช่วยจำ




ภาวะจิตใจไม่สงบ ความคิดฟุ้งซ่าน เมื่อเกิดในขณะทำงาน หรือ ในช่วงอ่านหนังสือทบทวนบทเรียน ถือเป็นสถานการณ์ที่ชวนหงุดหงิด ซึ่งไม่เพียงส่งผลต่อการพิชิตเป้าหมายต้องล่าช้าออกไปเท่านั้น แต่ยังอาจบั่นทอนประสิทธิภาพของเนื้องาน หรือ ไม่สัมฤทธิ์ผลอย่างที่ควรจะเป็น   อย่างไรก็ตาม การขาดสมาธิเกิดได้หลายปัจจัย เช่น พักผ่อนไม่เพียงพอ หิว หรือ อิ่มจนเกินไป ตลอดจนสภาพแวดล้อมในขณะนั้นที่ไม่เอื้ออำนวย เป็นต้น

ขณะที่ การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสมก็สำคัญจะสังเกตว่าขณะเผชิญกับเหตุการณ์ที่ทำให้รู้สึกกดดัน หรือ เครียดมาก มักส่งผลให้การโฟกัสที่สิ่งใดสิ่งหนึ่งทำได้ในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือ ไม่สามารถจดจ่อมีสมาธิ

สำหรับเทคนิคบรรเทาจิตใจว้าวุ่น เตรียมที่จะจดจำ เริ่มด้วย การสร้างสมาธิ โดยอาจจจะนั่งบนเก้าอี้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องหลับตา เพียงให้มีสติรู้ลมหายใจเข้า-ออกกำหนดจุดเพ่งมอง ปฏิบัติประมาณ 5-10 นาที ช่วยลดความยุ่งเหยิงทางใจ คลายกังวล พร้อมใช้ความคิด

ส่วนทริคช่วยจำนั้น มีคำแนะนำจากหลายเสียงน่าสนใจ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้การทำความเข้าใจมากกว่าท่องทำให้เห็นที่มาที่ไป และรูปแบบความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกันในแต่ละส่วน แล้วสรุปเป็นมายด์แม็ป หรือ แผนที่ความคิด เพื่อสะดวกในการทบทวนได้ตรงประเด็นภายหลัง


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์

จริงหรือ? "มีดทำครัว" ตัวแพร่ไวรัส




มีดทำครัวที่ใช้กันอยู่เป็นประจำ กลายเป็นตัวแพร่เชื้อไวรัสที่ไม่มีใครคาดคิด โดยผลการวิจัยของศูนย์กลางความปลอดภัยด้านอาหาร มหาวิทยาลัยจอร์เจีย ระบุว่า ผู้คนที่จัดเตรียมอาหารก่อนการปรุงควรจะล้างมือให้สะอาดก่อนการเตรียมอาหารเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคที่อาจจะมากับมีดทำครัวโดยที่เราไม่คาดคิดมาก่อน

โดยนักวิจัยได้ทำการมีดด้ามใหม่ในการปอกผลไม้และหั่นผัก 6 ประเภท คือ แตงกวา สตรอเบอรี่ มะเขือเทศ แครอต แคนตาลูป และเมลอน ที่มีเชื้อไวรัสตับอักเสบบี และเชื้อโนโรไวรัสที่ทำให้เกิดการอาเจียน พบว่ากว่าครึ่งหนึ่งของมีดใหม่ที่นำมาใช้ติดเชื้อเหล่านี้ไป และสามารถแพร่เชื้อไวรัสนี้ต่อไปได้ โดยชิดของมีดไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อการแพร่เชื้อไวรัส

ดังนั้น นอกเหนือจากการล้างมือให้สะอาดทุกครั้งทั้งก่อนและหลังทำอาหารแล้ว ก็ควรจะล้างมีดให้สะอาดก่อนนำไปใช้งานอีกครั้ง ไม่ควรจะปล่อยวางไว้หลังการใช้งาน เพราะมันไม่ได้แค่สกปรกอย่างที่คิด แต่ยังมีเชื้อไวรัสติดอยู่ด้วย

ทั้งนี้ เคยมีผลการวิจัยก่อนหน้านี้เกี่ยวกับเรื่องการปนเปื้อนของมีดทำครัว ซึ่งพุ่งเป้าไปที่เชื้อแบคทีเรีย ไม่ใช่เชื้อไวรัส ขณะที่การวิจัยเมื่อปี 2554 พบว่าเชื้อโนโรไวรัสเป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดโรคที่มาจากอาหารในสหรัฐอเมริกา โดยการรับเอาเชื้อโนโรไวรัสเข้าไปจะทำให้อาเจียนหรือท้องร่วงได้


ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

เคล็ดลับสุขภาพดี เมื่อนั่งเที่ยวบินยาวๆ




      ฤดูกาลนี้เป็นอีกช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยว หลายคนนิยมเดินทางไปต่างประเทศ แต่การนั่งในเที่ยวบินยาวๆ ใครๆ ก็รู้ดีว่าเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยได้ง่าย เมื่อเรามีเพื่อนร่วมเดินทางอีกราว 400 ชีวิต เพราะการนั่งอยู่ในอากาศที่ไม่ถ่ายเทนาน ๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องเดินทางบ่อยๆ ก็ยิ่งเสี่ยง แต่ใครจะอยากไม่สบายระหว่างท่องเที่ยว หรือไปทำงานต่างประเทศ วันนี้เรามีเคล็ดลับดูแลสุขภาพระหว่างเดินทางมาฝากกันค่ะ

ไวรัส และอาการเจ็บคอ
ระหว่างการเดินทางเราจะมีความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อไวรัสใหม่ ๆ ที่ไม่คุ้นเคย ทำให้เพิ่มโอกาสที่จะมีอาการป่วยเพราะร่างกายยังไม่มีภูมิคุ้มกันได้ ทางที่ดีที่สุดที่จะเลี่ยงการติดเชื้อหวัดคือการดูแลความสะอาด โดยการล้างมือบ่อย ๆ เพราะเชื้อหวัดโดยทั่วไปจะยังมีชีวิตอยู่ได้หลายชั่วโมงบนลูกบิดประตูหรือพื้นที่อื่น ๆ ที่ผู้โดยสารใช้ร่วมกัน ที่สำคัญอย่าใช้ภาชนะ หรือช้อนส้อมร่วมกับผู้อื่น วิธีนี้ยังช่วยป้องกันคุณจากเชื้อโรคที่ทำให้ท้องเสียได้อีกด้วย


อาการเหนื่อยจากการเดินทาง
ขิงสมุนไพรชนิดนี้ ได้รับการยืนยันว่า มีฤทธิ์ในการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่เมื่อยล้าจากการเดินทางนานๆ ช่วยในระบบการย่อยอาหารที่อาจเกิดปัญหาเพราะการนั่งนานได้ จึงแนะนำให้รับประทาน หรือดื่มน้ำขิงระหว่างเที่ยวบินหากทำได้ สำหรับท่านที่เดินทางบ่อยอาจพิจารณาขิงอัดเม็ดก็สะดวกไม่น้อย


ดูแลดวงตา
อาการตาแดงระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะเที่ยวบินที่บินข้ามคืนนั้นทำให้คุณมีอาการตาแห้ง หรือเจ็บตาได้ การพกยาหยอดตาที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นแก่ดวงตาช่วยได้ และหากคุณเป็นคนสวมคอนแทคเลนส์ก็ควรเลี่ยงมาใส่แว่นในกรณีที่เดินทางนานๆ หรือหยอดตาเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นบ่อยๆ

ความเครียดและตื่นเต้น
หากมีความเคร่งเครียดระหว่างการเดินทาง เที่ยวบินยาวๆ จะยิ่งทำให้คุณเหนื่อยล้ามากกว่าปกติ เพราะความเคร่งเครียดไปเพิ่มความเหนื่อยอ่อนให้ร่างกาย นอกจากนี้ยังทำให้ร่างกายเกิดอาการบวม ขาดน้ำ ก่อให้เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นได้ เพื่อป้องกันริ้วรอยบนใบหน้าจากผิวแห้งควรใช้สเปรย์พ่นให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าเป็นระยะ และหากสเปรย์นั้นผสมเอสเซนเชียลออยล์ก็จะช่วยผ่อนคลายอารมณ์ได้อีกด้วย
  

ที่มา : หนังสือพิมพ์ASTVผู้จัดการ

ทำอย่างไรไม่ให้พลาดมื้อเช้า




           หลายๆ คนไม่ได้ให้ความใส่ใจกับมื้อเช้าเท่าไหร่นักเพราะยามเช้าเป็นช่วงเวลาที่เร่งรีบออกไปทำงาน จึงมัววุ่นอยู่แต่การรีบแต่งตัวออกจากบ้านให้เร็วที่สุดก่อนที่รถจะติด จนลืมคำนึกถึงมื้อเช้าที่อุดมไปด้วยสารอาหาร แถมยังให้ความสำคัญกับมื้อเย็นซะมากกว่า ด้วยบรรดาของโปรดแสนอร่อยแบบจัดเต็มที่เป็นการเพิ่มไขมันสะสมใต้ชั้นผิวหนังมากขึ้นทุกๆ วัน

             นอกจากนั้นแล้วคุณรู้หรือไม่ว่าการรับประทานมื้อเช้าที่เพียงพอจะช่วยให้ความอยากในมื้อต่อไปลดลง เพราะฉะนั้นวันนี้เรามาลองหาแรงจูงใจในการกินมื้อเช้าด้วยวิธีง่ายๆ กันค่ะ

ตื่นก่อนเวลาปกติสัก 10-15 นาที
เพื่อที่คุณจะได้มีเวลาในการทำกิจวัตรส่วนตัวมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ต้องทำอะไรแบบเร่งรีบและมีเวลาเหลือสำหรับมื้อเช้าก่อนออกจากบ้าน

เข้านอนเป็นเวลา
ควรจะปรับพฤติกรรมให้เข้านอนตรงเวลาซึ่งไม่ควรเกินเที่ยงคืน เพื่อให้ร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างเพียงพอและเพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอขณะที่เรานอนหลับได้อย่างเต็มที่ การพักผ่อนอย่างเพียงพอวันละ 8 ชม.จะช่วยให้เราตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น

อะไรก็ได้ที่มีประโยชน์
บางคนบ่นว่าไม่มีเวลามาปรุงอาหารสำหรับมื้อเช้า ก็เลยใช้เป็นข้ออ้างในการที่จะไม่กินมื้อเช้าเสียดื้อๆ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด อาหารเช้าไม่ใช่อะไรที่ยุ่งยาก เพียงแค่สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายง่ายๆ อย่าง ขนมปัง แฮม ไส้กรอก หรืออะไรง่ายๆ ที่สามารถเตรียมได้ในเวลาไม่กี่นาที ยิ่งสมัยนี้มีแฮม ไส้กรอกแบบที่ปรุงสุกได้ง่ายๆ เพียงนำเข้าไมโครเวฟไม่กี่นาทีก็พร้อมเสิร์ฟ

เริ่มมือเช้าแบบเบาๆ สำหรับใครที่ห่างหายจากการกินมื้อเช้ามาเป็นเวลาแสนนานจนยากที่จะปรับตัวขอให้เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยมื้อเช้าแบบเบาๆ ค่อยเป็นค่อยไป อย่างขนมปังโฮลวีตสักแผ่นกับน้ำส้มคั้น ผลไม้อย่างกล้วยน้ำว้าสักลูกในทุกๆ เช้าก็จะช่วยให้เราค่อยๆ ชินกับมื้อเช้าได้

เวลามื้อเช้า
ช่วงเวลาสำหรับการรับประทานมื้อเช้าที่ดีควรเริ่มที่ 7 โมงเช้า และไม่ควรเกิน 9 โมง เพราะเป็นช่วงเวลาที่กระเพาะกำลังทำงาน ถ้าไม่มีอหารสำหรับย่อย การบีบรัดตัวของกระเพาะก็จะดันเอาของเก่าที่อยู่ในลำไส้กลับขึ้นมาย่อยซ้ำ สารพิษที่อยู่ในอุจจาระก็จะถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษ ซึ่งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ร่างกายได้รับสารพิษ ซึ่งยังเป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวพรรณไม่สดใสเปร่งปลั่งอีกด้วย

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

ป้องกันหวัด และบำรุงสายตา ด้วย เคพกูสเบอรี่




เคพกูสเบอรี่ ไม้ผลขนาดเล็กที่อุดมไปด้วย วิตามินซี วิตามินเอ สามารถช่วยป้องกันไข้หวัด และช่วยบำรุงสายตาได้

เคพกูสเบอรี่ เป็นไม้ผลขนาดเล็กที่มีรสชาติเปรี้ยวอมหวาน กลิ่นหอม มีถิ่นกำเนิดจากประเทศบราซิล เป็นพืชตระกูลเดียวกับพริก มะเขือ มะเขือเทศ มันฝรั่ง ยาสูบ พิทูเนีย มีชื่อภาษาไทยว่า โทง เทงฝรั่งเนื่องจากมีลักษณะเหมือนกับต้นโทงเทงที่เป็นวัชพืช ต่อมามีการเรียกชื่อใหม่ คือ ระฆังทองเคพกูสเบอรี่อุดมด้วยวิตามินซี ช่วยป้องกันไข้หวัด วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา เหมาะสำหรับการรับประทานผลสด ชุบช็อก โกแลต จุ่มน้ำผึ้ง ใส่ในสลัด ทำน้ำผลไม้ หรือนำไปทำเป็นแยมก็ได้

                  ประเทศไทยมีปลูกมากที่แปลงของเกษตรกรชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง บ้านขุนกลาง ดอยอินทนนท์ เป็นพันธุ์ที่ทางราชการไทยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูก เป็นพันธุ์ที่ทรงพุ่มมีความสูงประมาณ 1.20 เมตร กว้างประมาณ 1.50 เมตร ผลมีขนาดใหญ่รูปทรงกลมสามารถปลูกได้ดีในพื้นที่ที่มีความสูง 700 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ลักษณะดอกเมื่อผลสุก กลีบเลี้ยงหุ้มผลจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเหลืองฟางข้าวฤดูกาลเก็บเกี่ยวอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ลักษณะเนื้อด้านในสีเหลืองสวยฉ่ำน่ารับประทาน


ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์